วันอังคาร, 19 มีนาคม 2567

ตำนาน ทะเลตรัง ที่มาของชื่อเกาะต่างๆ

ท่านที่มาเที่ยวทะเลตรังกัน ชอบถามกันว่าชื่อเกาะทำไมชื่อนั้น ชื่อนี้ เกาะไห กับ เกาะไหง เอ…ทำไมหลายชื่อจัง เล่ากันว่า ไห ลอยล่องมายัง เกาะไหง เพราะฉะนั้น ไม่มีใครผิดหรอกครับ ตำนาน คือเรื่องเล่า มาดูกันดีกว่าครับ ตำนานท้องทะเลตรัง  กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ได้มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมา  ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงแค่ไหน เราเองก็ใช้วิจารณญาณก็แล้วกัน ตำนานเล่าว่า สมัยก่อนนั้น ไม่รู้สมัยไหน เริ่มตั้งแต่มีสำเภามาจากเมืองจีน เข้ามาค้าขายกับบ้านเราก็มีเรือสำเภาลำหนึ่ง เข้ามาค้าขายที่เมืองกันตัง พอค้าขายเสร็จก็จะกลับเมืองจีน แต่ไม่รู้ว่า นายสำเภา ถูกอกถูกใจอะไรกับเด็กคนหนึ่ง อยากจะได้เด็กคนนั้นกลับไปด้วย เลยไปขอเด็กคนนั้นกับผู้ที่เป็น พ่อ-แม่ และผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็ไม่รู้ว่าคิดอย่างไรจึง ยกลูกให้นายสำเภาไป คงจะเป็นเพราะว่าตัวเองอยากจน ถ้าลูกได้ไปอยู่กับสำเภาอาจจะได้ดิบได้ดีก็เป็นได้ จึงยกลูกให้ไปแล้วเรือสำเภาลำนั้นก็หายไป… หายไป…นาน… จนผู้คนที่หมู่บ้านที่เด็กคนนั้นจากไปลืมเรื่องครั้งนั้นไปแล้ว หมู่บ้านนั้นก็คือบ้านพระม่วงปัจจุบันนี้ก็ยังอยู่คือ ปากแม่น้ำตรัง เขาบอกว่า นานประมาณ 20 ปี เห็นจะได้ สำเภาลำนั้นก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ก็มีคนในหมู่บ้าน จำได้ว่าครั้งหนึ่ง สำเภาเรือลำนี้ได้นำเด็กตัวเล็ก ๆ จากหมู่บ้านนี้ไป จึงเข้าไปดูคนในเรือสำเภาและเห็นนายสำเภาเรือเปลี่ยนไปจากคนเดิม ดูนายสำเภาคนใหม่นี้มีลักษณะคล้ายกับเด็กคนนั้นจัง จึงไปที่หมู่บ้านและได้บอกกับพ่อ-แม่ของเด็กของเด็กคนนั้นด้วยความดีใจหรือเปล่าก็ไม่ทราบ พ่อ-แม่ ในยามนี้เป็น ตา-ยายแก่แล้วรีบมุ่งหน้ามาหาลูกที่ท่าเรือ  สิ่งของที่คิดมาด้วยคือ แต่งตัวซอมซ่อ เสื้อผ้าเก่า ๆ และมีลูกมะม่วงติดมือมาหนึ่งช่อเข้าไปทักทายเข้าไปเรียก…แต่… เรือสำเภาจีน โบราณ ตรังนายสำเภาก็ไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อ-แม่ บางคนบอกว่า “เขาอับอายที่พ่อ-แม่เขาอยากจน” นายสำเภาบอกให้เอาน้ำล้างจานสาดไล่ตายายแก่ 2 คนนั้นไปให้พ้น แต่ยังไงแกก็ไม่ไป แกอยากจะคุยกับลูกชายของแก จนนายสำภาสั่งให้หันหัวเรือออกสู่ทะเล เพื่อมุ่งหน้าออกสู่ทะเล   ผู้เป็นพ่อ-แม่ก็ได้ขว้างลูกมะม่วงตามเรือสำเภาลำนั้น พร้อมกับคำสาปเช่งต่าง ๆ นานา ขอให้มี  อันเป็นไปในท้องทะเล พอเรือสำเภาออกสู่ทะเลใกล้ ๆ กับเกาะเภตราก็เกิด พายุ ฝนฟ้าคะนองขึ้น  ทำให้เรือสำเภาเสียหลักไปชนกับกองหินโสโครก ทำให้เรือสำเภาลำนั้นแตก และสิ่งของต่างในเรือ ก็กระจัดกระจายไปตามท้องทะเล  ต่อมา สิ่งของต่าง ๆ นั้นก็กลายเป็นชื่อของเกาะ ต่าง ๆ ในท้องทะเล  กระดาน คือ กระดานจากเรือสำเภา เชือก คือ  เชือกที่ใช้ในเรือสำเภานั้นเอง  มุก คือ ภรรยาของนายสำเภานายสำเภานั้น ก็คือ ลิบงนั้นเอง อย่างเช่น ตำนานของเกาะไหง ในหนังสือ นั้นได้เขียนไว้ว่า… ตำนานเล่าวาไห…ลอยเลาะที่เกาะไหง…สมบัติในเภตรามาจมหาย แด่ผืนดินผืนน้ำและหาดทราย   กลับคลับคล้ายทรัพย์สินใหม่มาให้ชม อย่างเช่นเพลงตอนหนึ่งก็เขียนว่า อรุณเบิกฟ้ามุ่งหน้าสู่เกาะกระดาน  เกาะเชือกเกาะแหวนช่างแสนงามตระการ หวนคิดถึงตำนานของเกาะลิบง  ทำไม ๆ จึงทิ้งพ่อแม่ได้ลง มุกเอ๋ย ลิบงมันเนรคุณ  ในหนังสือแหล่งท่องเที่ยวก็เขียนกลอน จากคนที่อยู่บนเกาะว่า ชุมนุมคนเปลี่ยนรอยยิ้มและอัธยาศัย  พร้อมน้ำใจกับมิตรใหม่ที่ไปหา หวนคำนึงถึงตำนานเล่าขานมา   ว่าเภตราลอยล่มจมหายไป สิ่งของเครื่องใช้กลายเป็นชื่อของเกาะ  ให้ลัดเลาะเที่ยวชมลุ่มหลงใหล เกาะมุก,เชือก,กระดาน,แหวน คือแดนศรีวิไล ทั้งเกาะรอก,ม้า,ไหง จากใจอาดูร  หรือลิบงหลงผิดมาคิดได้   จึงกลับกลายบุญคุณมาเกื้อหนุน สร้างบ้านหลังสุด้ายแก่ “พะยูน”   สร้างความอุดมสมบูรณ์แก่ผู้คน นั้นก็เป็นเพียงแค่ตำนานทีเขาได้เล่าขานกันมาบางคนก็บอกว่าตอนที่เรือวิ่งออกไปจากแม่น้ำหนีไป ที่ขว้างลูกมะม่วงตรมไปเพราะเรียกให้ลูกกลับมา นี้เห็นไหม ลูกมะม่วง ถึงหน้ามะม่วงแล้วออกทะเลลึกไม่ได้ ..ไม่ได้สาปแช่งลูกสักหน่อย เราลองนึกดูซิว่า เราทานข้าวเหนียวมะม่วงตอนฤดูกาลไหนกัน….? ช่วงเดือนไหน…..?ครับ ต่อจากนั้นจะเป็นหน้ามรสุมหรือช่วงนี้ เรื่อง มักจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ก็เลยบอกให้กลับมา ไปไม่ได้แล้วนี้ก็ไม่รู้ว่าเท็จจริงแค่ไหน แต่เรื่องนี้ก็สอนให้เราไดรู้ว่า “บุญคุณต้องทดแทน” เรามาเที่ยวทะเลกันในวันนี้ก็ได้รับความสุขกันจากท้องทะเล สรุปก็คือว่าเรามาตักตวงความสุขให้กับตัวเองจากท้องทะเลนั้นเองแล้ว เราได้ตอบแทนท้องทะเล มีบ้างหรือยัง ก็ขอฝาก สิ่งนี้ให้ทุกคนได้กลับไปเที่ยวก็แล้วกัน